วันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ประโยชน์ของกล้วยแต่ละชนิด

     กล้วยที่คนไทยนิยมรับประทานมีมากมาย ประโยชน์ของกล้วยก็เช่นกันมีมากมาย บางคนถือเอากล้วยเป็นอาหารลดความอ้วน บางคนทำมาทานเป็นผลไม้ที่เหมาะกับการเป็นของว่าง แต่จริงๆ แล้วนั้นนอกจากความอร่อย ถูกปากคนไทย กล้วยยังมีประโยชน์ในเชิงโภชนาการ และสารอาหารอีกมากมายที่เรายังไม่เคยรู้


กล้วยหอม
     ใครจะเชื่อว่าประโยชน์ของกล้วยหอม สามารถช่วยเลิกบุหรี่ได้, ลองทานไอศครีมใส่กล้วยหอมเย็นๆทานแล้วเข้ากันสุดๆ แต่ในกล้วยหอมที่เราทานเข้าไปยังมีประสิทธิภาพช่วยผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่ เพราะวิตามินบี 6 บี 12 โพแทสเซียมและแมกนีเซียมที่มีอยู่มาก ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วจากการขาดสารนิโคตินได้ดี เรียกง่ายๆว่าช่วยลดอาการเหวี่ยงจากการขาดบุหรี่ได้ดีนั่นเอง นอกจากนี้สำหรับสาวๆ ก่อนมีประจำเดือน ที่ทำให้หงุดหงิด ปวดท้อง ปวดหัว กล้วยหอมก็ช่วยลดอาการเหล่านี้ได้ดีอีกด้วย
กล้วยน้ำว้า
     
ประโยชน์ของกล้วยน้ำว้าแก้โลหิตจาง, คิดถึงของหวานทีไร เป็นต้องคิดถึงกล้วยบวชชีทุกที…แต่เพิ่งมารู้ประโยชน์เอาตอนโตแล้วว่า กล้วยน้ำว้านี่มีสารอาหารเพียบ โดยเฉพาะกล้วยน้ำว้าห่ามและสุกที่มีธาตุเหล็กในปริมาณสูง ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง ป้องกันโรคโลหิตจาง และยังมีแคลเซียม ฟอสฟอรัส และวิตามินซี แคโรทีน ไนอาซีน และใยอาหาร ที่ช่วยแก้โรคเลือดออกตามไรฟันได้อีกด้วย
กล้วยไข่
     ประโยชน์ของกล้วยไข่ช่วยลดริ้วรอย, หลังจากอ่านประโยคนี้จบ สาวๆคงมานิยมทานกล้วยไข่แน่ๆ เพราะในกล้วยไข่มีสารต้านอนุมูลอิสระที่เรารู้จักกันดี คือเบต้าแคโรทีน ช่วยชะลอความชราและริ้วรอยต่างๆ ร่วมไปถึงความเสื่อมของเซลล์ ที่สำคัญยังมีฤทธิ์ป้องกันการเกิดเซลล์มะเร็งและยับยั้งการเจริญเติบโตของ เซลล์เนื้อร้ายได้… ซึ่งไม่เฉพาะแต่ผลกล้วยเท่านั้น ในหัวปลียังมีแคลเซียม ธาตุเหล็ก แมกนีเซียม และฟอสฟอรัส ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อกระดูกและเนื้อเยื่อของเราด้วย




กล้วยหักมุก
     ประโยชน์ของกล้วยหักมุกแก้โรคกระเพาะ, เด็กๆ รุ่นใหม่คงจะไม่ค่อยรู้จักกล้วยหักมุกสักเท่าไร เพราะกล้วยหักมุกเป็นกล้วยที่ส่วนใหญ่แล้วเขาจะเอาไปปิ้งก่อนแล้วค่อยทาน ใครที่ปัญหาเรื่องโรคกระเพาะอาหารบ่อยๆ ต้องรีบหามาทานกันด่วนๆ ด้วยคุณสมบัติโดดเด่นของสารที่เรียกว่า ไซโตอินโดไซด์ 1, 2, 3, 4, 5 ซึ่งช่วยบรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ เนื่องจากแผลในกระเพาะอาหารได้ดีมากๆ และยังมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย สาเหตุท้องเสีย จากเชื้อโรคเอสเคอริเคีย โคไลด้วย


แหล่งที่มา : http://www.thailovehealth.com/nutrient/health-73.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น